Page 29 - 3-10studentadmiss

- 20 -

(2) ให้คณะกรรมการบริหารหลักสูตรจัดสอบวัดคุณสมบัติอย่างน้อย
ิ
ภาคการศึกษาละ 1 ครั้ง เมื่อมีนักศึกษายื่นค าร้องขอสอบ ทั้งนี้ให้อยู่ในดุลพนิจของคณะกรรมการบริหาร
หลักสูตร
(3) การสอบวัดคุณสมบัติประกอบด้วยการสอบข้อเขียนหรือการสอบปากเปล่า
หรือทั้งสองแบบในสาขาวิชาเอกและสาขาวิชาอื่นที่เกี่ยวข้อง
(4) ให้คณะกรรมการบริหารหลักสูตร เสนอรายชื่อคณะกรรมการสอบวัด
คุณสมบัติ จ านวน 3 - 5 คน ต่อคณบดีเพ่อพิจารณาแต่งตั้ง โดยกรรมการคนหนึ่งเป็นประธาน
ื
กรรมการสอบ คณะกรรมการสอบเป็นผู้รับผิดชอบในการด าเนินการสอบ และให้รายงานผลการสอบ
ต่อคณบดี โดยผ่านคณะกรรมการบริหารหลักสูตร ภายใน 2 สัปดาห์ หลังจากเสร็จสิ้นการสอบ
(5) นักศึกษาจะมีสิทธิ์สอบวัดคุณสมบัติ เมื่อได้รับความเห็นชอบจาก

อาจารย์ที่ปรึกษาและคณะกรรมการบริหารหลักสูตรว่ามีความรู้พื้นฐานพร้อมที่จะสอบได้
(6) นักศึกษาที่ประสงค์จะขอสอบต้องยื่นค าร้องขอสอบผ่านอาจารย์ที่ปรึกษา
และคณะกรรมการบริหารหลักสูตรไปยังคณะ
(7) เมื่อนักศึกษาได้รับอนุมัติให้สอบในภาคการศึกษาใด ๆ แล้ว ถ้าขาดสอบ

ิ
ั
โดยไม่มีเหตุผลอนสมควร ถือว่าสอบไม่ผ่านในการสอบคราวนั้น ทั้งนี้ให้อยู่ในดุลพนิจของประธาน
กรรมการสอบ
ี
(8) ผู้ที่สอบครั้งแรกไม่ผ่าน/ไม่เป็นที่พอใจ มีสิทธิ์สอบแก้ตัวได้อก 1 ครั้ง ภายใน
เวลาไม่น้อยกว่า 30 วัน นับจากวันสอบครั้งแรก ผู้ที่สอบครั้งที่สองไม่ผ่าน/ไม่เป็นที่พอใจ ให้พ้นสภาพการเป็น

นักศึกษา
(9) นักศึกษาต้องสอบวัดคุณสมบัติให้ผ่านโดยได้ผลการประเมินระดับ
คะแนนเป็น S ภายในระยะเวลาตามหลักสูตรต่างๆ ต่อไปนี้ โดยนับตั้งแต่ภาคการศกษาแรกที่เข้าศึกษา
ึ
้
มิฉะนั้นจะพนสภาพการเป็นนักศึกษา
(9.1) หลักสูตรปริญญาโท แบบ ก 1 ภายใน 3 ภาคการศึกษาปกติ
(9.2) หลักสูตรปริญญาเอก แบบ 1.1 ภายใน 4 ภาคการศึกษาปกติ
(9.3) หลักสูตรปริญญาเอก แบบ 1.2 ภายใน 4 ภาคการศึกษาปกติ

(9.4) หลักสูตรปริญญาเอก แบบ 2.1 ภายใน 4 ภาคการศึกษาปกติ
(9.5) หลักสูตรปริญญาเอก แบบ 2.2 ภายใน 6 ภาคการศึกษาปกติ

3.1.๒ ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง เกณฑมาตรฐานหลักสูตรระดับบัณฑตศึกษา
ิ
์
พ.ศ. 2558 ประกาศ ณ วันที่ 7 ตุลาคม 2558
ข้อ ๑๒. คุณสมบัติของผู้เข้าศึกษา

๑๒.๑ ประกาศนียบัตรบัณฑิต จะต้องเป็นผู้ส าเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี
หรือเทียบเท่า
๑๒.๒ ประกาศนียบัตรบัณฑิตชั้นสูง จะต้องเป็นผู้ส าเร็จการศึกษาระดับ
ประกาศนียบัตรบัณฑิต หรือปริญญาโท หรือเทียบเท่า
๑๒.๓ ปริญญาโท จะต้องเป็นผู้ส าเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีหรือเทียบเท่า

๑๒.๔ ปริญญาเอก จะต้องเป็นผู้ส าเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีหรือเทียบเท่า
ั
ที่มีผลการเรียนดีมาก หรือปริญญาโทหรือเทียบเท่า และมีผลการสอบภาษาองกฤษได้ตามเกณฑ์

ที่คณะกรรมการการอุดมศึกษากาหนด