Page 138 - 3-15erpsystem
P. 138
หนา ๒๘
้
เลม ๑๓๖ ตอนพิเศษ ๑๒๐ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๖๒
่
หมวด ๙
การกันเงินไว้เบิกเหลื่อมปี
ข้อ ๑๐๕ หน่วยงานของรัฐใดได้ก่อหนี้ผูกพนไว้ก่อนสิ้นปีงบประมาณและมีวงเงินตั้งแต่
ั
หนึ่งแสนบาทขึ้นไปหรือตามที่กระทรวงการคลังก าหนด กรณีที่ไม่สามารถเบิกเงินไปช าระหนี้ได้ทัน
สิ้นปีงบประมาณให้ขอกันเงินไว้เบิกเหลื่อมปีต่อไปได้อีกไม่เกินหกเดือนของปีงบประมาณถัดไป เว้นแต่
มีความจ าเป็นต้องขอเบิกเงินจากคลังภายหลังเวลาดังกล่าว ให้ขอท าความตกลงกับกระทรวงการคลัง
เพื่อขอขยายเวลาออกไปได้อีกไม่เกินหกเดือน
ข้อ ๑๐๖ การขอกันเงินไว้เบิกเหลื่อมปี หน่วยงานของรัฐต้องด าเนินการก่อนสิ้นปีงบประมาณ
โดยปฏิบัติตามวิธีการที่กระทรวงการคลังก าหนด
หมวด ๑๐
หน่วยงานย่อย
ข้อ ๑๐๗ การเบิกเงิน การรับเงิน การจ่ายเงิน การเก็บรักษาเงิน และการน าเงินส่งคลัง
ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์วิธีปฏิบัติที่กระทรวงการคลังก าหนด
หมวด ๑๑
การควบคุมและตรวจสอบของหน่วยงานผู้เบิกที่เป็นส่วนราชการ
ข้อ ๑๐๘ ทุกสิ้นวันท าการ ให้เจ้าหน้าที่การเงินของส่วนราชการตรวจสอบจ านวนเงินสด
และเช็คคงเหลือกับรายงานเงินคงเหลือประจ าวันที่กรมบัญชีกลางก าหนด กรณีการรับจ่ายเงินผ่านระบบ
อิเล็กทรอนิกส์ (e-Payment) ให้ส่วนราชการจัดให้มีการตรวจสอบการรับจ่ายเงินจากรายงานในระบบ
อิเล็กทรอนิกส์ (e-Payment) ตามหลักเกณฑ์วิธีปฏิบัติที่กระทรวงการคลังก าหนด
ข้อ ๑๐๙ ให้หน่วยงานผู้เบิกที่เป็นส่วนราชการมีหน้าที่ให้ค าชี้แจงและอ านวยความสะดวก
แก่เจ้าหน้าที่ของส านักงานการตรวจเงินแผ่นดินในการตรวจสอบรายงานการเงินและหลักฐานการจ่าย
กรณีที่ได้รับการทักท้วง จากส านักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ถ้าหน่วยงานผู้เบิกไม่เห็นด้วยกับข้อทักท้วง
ให้ชี้แจงเหตุผลและรายงานให้กระทรวง ทบวง กรม เจ้าของงบประมาณ แล้วแต่กรณี ทราบภายใน
สิบวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งข้อทักท้วงจากส านักงานการตรวจเงินแผ่นดิน หากเจ้าของงบประมาณ
ิ
ดังกล่าวเห็นว่าค าชี้แจงนั้นมีเหตุผลสมควร ให้พจารณาด าเนินการขอให้กระทรวงการคลังวินิจฉัยภายใน
สิบวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งจากหน่วยงานผู้เบิก