Page 52 - 3-20discipline
P. 52
ื่
ซึ่งต่างก็คิดว่าตนเองไม่ผิด พยานหลักฐานต่าง ๆ ซึ่งต่างฝ่ายก็พยายามสร้างขึ้นมาเพอปกป้องตนเอง
เพราะผู้ที่ถูกสอบสวนก็จะมีวิธีการปกป้องตนเองจากคณะกรรมการสอบสวนเช่นกัน ดังนั้น ผู้ที่เป็น
ื
คณะกรรมการสอบสวนจึงเป็นบุคคลที่มีความเสียสละ อดทน มีไหวพริบ ที่จะท าให้ผู้อื่นมีความเชื่อถอ
ไว้วางใจจนน าไปสู่การบอกเล่าความจริง ถึงแม้ว่าความจริงจะปรากฏ จะเป็นเรื่องที่ง่ายดาย
แต่โดยวิสัยของกรรมการสอบสวนแล้วจะยังไม่เชื่ออะไรจนกว่าจะได้ด าเนินการสอบสวนจนจบ
ตามขั้นตอน แล้วน ามาวิเคราะห์แล้วเท่านั้น
8. การประชุมพิจารณาของคณะกรรมการ
ิ
การประชุมพจารณาด าเนินการทางวินัยนักศึกษา ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของ
คณะกรรมการสอบสวน หรือกรรมการพจารณาอทธรณ์วินัยนักศึกษา ต้องจัดให้มีการประชุม
ุ
ิ
ิ
ื่
พิจารณา เพื่อให้กรรมการได้มาประชุมและเสนอความคดเห็นและมีมติร่วมกัน เพอให้การพิจารณาได้
มีการวิเคราะห์ โต้แย้ง ร่วมกัน โดยการประชุมพิจารณาของคณะกรรมการ ต้องมีลักษณะดังนี้
ุ
ิ
8.1 การประชุมของคณะกรรมการสอบสวน หรือกรรมการพจารณาอทธรณ์วินัย
นักศึกษา จะต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของกรรมการทั้งหมดจึงจะเป็นองค์ประชุม
8.2 การวินิจฉัยชี้ขาดให้ถือเสียงข้างมากขององค์ประชุม
8.3 ค าวินิจฉัยของคณะกรรมการ จะต้องมีลายมือชื่อของคณะกรรมการที่วินิจฉัย
เรื่องนั้น ถ้ากรรมการคนใดมีความเห็นแย้งให้มีสิทธิท าความเห็นแย้งของตนรวมไว้ในค าวินิจฉัยได้
8.4 กรณีประธานกรรมการ ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ในคราวใดให้ประธาน
กรรมการมอบหมายให้กรรมการคนใดคนหนึ่งท าหน้าที่ประธานแทน
การลงโทษทางวินัยนักศึกษา
1. การพิจารณาค าสั่งโทษ
เมื่อการด าเนินการกับผู้ถูกกล่าวหาตามกระบวนการ เพอให้เกิดความยุติธรรม
ื่
่
ครบถ้วนแล้วจึงน าสู่ขั้นตอนการด าเนินการลงโทษทางวินัยนักศึกษา แต่กอนการจัดท าค าสั่งใด ๆ ของ
มหาวิทยาลัยซึ่งถือเป็นค าสั่งทางปกครอง อนจะมีผลกระทบต่อสิทธิ์ของนักศึกษาและเพอป้องกัน
ื่
ั
ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นมาภายหลังการออกค าสั่ง ทั้งนี้ ผู้ด าเนินการควรพจารณาค าสั่งที่ด าเนินการ
ิ
มาตั้งแต่ต้นว่าอยู่ในขอบข่ายดังนี้หรือไม่ ดังนี้
ื่
1.1 กระบวนการพจารณาเพอออกค าสั่งลงโทษนักศึกษาชอบด้วย กฎ ระเบียบ หรือ
ิ
กฎหมายหรือไม่ เช่น นักศึกษาได้มีโอกาสชี้แจงแสดงเหตุผลต่อผู้มีอ านาจหน้าที่หรือไม่ ฯลฯ
1.2 ค าสั่งที่จะลงโทษนักศึกษาชอบด้วยกฎ หรือระเบียบ กฎหมายที่มีอยู่หรือไม่
กล่าวคือ การกระท าผิดที่จะออกค าสั่งลงโทษมีข้อห้ามและบทลงโทษไว้อย่างชัดเจนหรือไม่
1.3 การใช้ดุลยพนิจของผู้มีอานาจสั่งการก าหนดโทษชอบด้วยเหตุผลถูกต้องตาม
ิ
กฎ ระเบียบหรือกฎหมายที่มีอยู่หรือไม่
เมื่อการด าเนินการชอบด้วยเหตุผลอย่างน้อย 3 ประการข้างต้นจึงน าไปสู่การด าเนิน
การตามประกาศมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร เรื่อง มาตรการการลงโทษทางวินัย
นักศึกษา ลงวันที่ 21 ตุลาคม 2552 และข้อบังคับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีรมงคลพระนคร
ว่าด้วยวินัยนักศึกษา พ.ศ. 2552 ซึ่งก าหนดไว้ในข้อ 5 ว่านักศึกษาผู้ใดฝ่าฝืนข้อห้าม หรือไม่ปฏิบัติ
คู่มือปฏิบัติงาน : ด้านวินัยนักศึกษา หน้า | 46