Page 536 - บทความแนวปฏิบัติที่ดี KM มทร.+2 ครั้งที่ 10
P. 536

530


               ส าคัญโดยเฉพาะเพลงครูถือเป็นหลักส าคัญพื้นฐานดนตรีและความเชื่อ นักดนตรีทุกคนต้องผ่านเพลงชุดไหว้ครู
               นี้เป็นปฐมก่อนเรียนเพลงอื่นๆ  เพลงชุดไหว้ครูยังใช้บรรเลงเริ่มต้นเป็นเพลงแรกหลังท าพิธียกครูทุกครั้ง

               ส าหรับเพลงแห่และเพลงทั่วไปมีลีลาท่วงท านองสนุกสนาน จังหวะกระชับกระฉับกระเฉง ใช้บรรเลงเมื่อต้อง
               น าขบวนแห่ตามวาระโอกาส ส่วนเพลงทั่วไปแบ่งได้ ๒ ประเภท คือ เพลงบรรเลงงานมงคลและ เพลงบรรเลง
               งานอวมงคล เพลงบรรเลงงานอวมงคลควรมีลีลาจังหวะเนิ่นช้า ท่วงท านองให้อารมณ์โศก “มโหรีอีสาน” ใน
               หนังสือน าชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สุรินทร์ ที่เขียนว่า “วงมโหรีพื้นบ้านและวงมโหรีปี่พาทย์ในจังหวัด

               สุรินทร์นิยมแพร่หลายมาตั้งแต่ สมัยรัฐบาลกลางได้ส่งข้าหลวงและข้าราชการจากส่วนกลางมาปกครองภาค
               อีสานในสมัย รัชกาลที่ 5 และการเล่นมโหรีก็ได้แพร่หลายสู่ชาวบ้านในเวลาต่อมา ” (กรมศิลปากร, 2550 :
               154) วงมโหรีพื้นบ้านอีสานมีประวัติความเป็นมาจากการถ่ายทอดมาจากครูมโหรีพื้นบ้านในภาคอีสาน ค าว่า
               “มโหรี” ส าหรับชาวอีสานหมายถึง ดนตรีทั่วไปที่ใช้บรรเลงในงานต่าง ๆ เครื่องดนตรีหลัก ที่ใช้บรรเลงได้แก่

               ซอ ปี่ ระนาด กลอง ฉิ่ง และ ฉาบ เป็นประเภทวงดนตรีพื้นบ้านที่ไม่มีการขับร้อง  ใช้ซอ ปี่ ระนาด หรือพิณ
               เป็นเครื่องด าเนินท านองใช้กลอง ฉิ่งและฉาบ เป็นเครื่องประกอบจังหวะ มีวิธีการบรรเลง 3 ขั้นตอนคือ ตอน
               ขึ้นเพลง ตอนบรรเลง และตอนจบเพลง มีรูปแบบการบรรเลงแบบนั่งบรรเลง และแบบเดินบรรเลง ซึ่งบรรเลง
               ในขบวนแห่พิธีกรรมทางศาสนา ในขบวนแห่ประกอบพิธีกรรมที่เกี่ยวกับวิถีชีวิต และในขบวนแห่ประกอบ

               เทศกาลต่างๆ  ความเข้มแข็งทางวัฒนธรรมของวงมโหรีพื้นบ้านอีสานมีความเป็นอยู่อย่างไทย มีค่านิยมที่ดีงาม
               มีอุดมการณ์พื้นฐานร่วมกัน  ร่วมสืบสานวัฒนธรรม รักษาประเพณี  และสืบต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน (พิชชาณัฐ ตู้
               จินดา. 2556)

                       ในวงมโหรีโคราช ปี่แก้ว เป็นเครื่องดนตรีประเภทเครื่องเป่าที่ผสมอยู่ เป็นผู้น าวง ปี่มีหน้าที่เป็นผู้ขึ้น
               เพลงมีรูปร่างลักษณะคล้ายปี่นอกต่ า ลักษณะพิเศษมีล าโพงท าด้วยโลหะเป็นเครื่องเป่าที่มีช่วงเสียงแหลม การ
               ปิดเปิดนิ้วที่ซับซ้อน และเป็นเครื่องเป่าที่ต้องอาศัยการบังคับลมหนักเบาเพื่อให้ได้เสียงที่ต้องการ การที่จะเป่า
               ปี่ให้เกิดเสียงสูงต่ าเป็นท านองได้นั้น ต้องอาศัยทั้งแรงลมจากภายในกับการบังคับด้วยปากและลิ้น ผสมกับการ
               ใช้นิ้วมืออย่างกลมกลืนจึงจะสามารถท าให้เกิดเสียงที่เป็นท านองอันไพเราะได้  ผู้ที่ฝึกหัดเป่าปี่ใหม่ๆ นั้น ต้อง

               ฝึกเป่าเสียงแต่ละเสียงแต่ละเสียงซ้ าไปซ้ ามา  หลายหน กว่าจะบังคับลมและนิ้วได้พอเหมาะพอดีกันในแต่ละ
               เครื่อง และต้องฝึกเช่นนี้ไปเป็นระยะเวลานานจึงจะเกิดความช านาญ จนสามารถเป่าปี่ให้เป็นเสียงต่างๆ ได้ จึง
               นับได้ว่าปี่แก้วเป็นเครื่องดนตรีพื้นบ้าน เป็นเอกลักษณ์ที่แสดงความเป็นไทยได้อย่างชัดเจนควรค่าแก่การ

               ส่งเสริมสืบสานให้คงอยู่คู่สังคมไทยตลอดไป
                       วิทยาลัยนาฎศิลปนครราชสีมา สังกัดสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ กระทรวงวัฒนธรรม  มีพันธกิจในการจัด
               การศึกษาเฉพาะสาขาวิชาชีพด้านนาฏดุริยางคศิลป์ ในระดับพื้นฐานชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 1 ถึงชั้นมัธยมศึกษาปี
               ที่ 6 และเป็นห้องเรียนเครือข่ายระดับอุดมศึกษาของสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ มีหน้าที่ในการอนุรักษ์ สืบสาน

               สร้างสรรค์และเผยแพร่ด้านนาฏศิลป์และดนตรีไทย วิทยาลัยนาฎศิลปนครราชสีมาตระหนักถึงความส าคัญ
               ของการเป็นครูวิชาชีพ จัดบรรยากาศ สภาพแวดล้อม สื่อการเรียน และอ านวยความสะดวกเพื่อให้ผู้เรียนเกิด
               การเรียนรู้ สามารถใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเรียนรู้ รวมทั้งพัฒนากระบวนการเรียน
               การสอนให้มีประสิทธิภาพ ปี่แก้วในวงมโหรีโคราช จึงเป็นกระบวนการส าคัญที่ห้องเรียนเครือข่ายวิทยาลัยนาฏ

               ศิลปนครราชสีมา ควรส่งเสริมให้มีการจัดเก็บองค์ความรู้เทคนิคการท าวิจัยในชั้นเรียนของอาจารย์
               ระดับอุดมศึกษาเพื่อเป็นข้อมูลในการพัฒนาการท าวิจัยในชั้นเรียนให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
   531   532   533   534   535   536   537   538   539   540   541