Page 42 - 7-3eMeeting
P. 42
๒๘
ิ
๒) เรื่องที่เสนอ เช่น เพื่อพจารณา เสนอประเด็นปญหา เสนอผลกระทบ ข้อเท็จจริง
ความคิดเห็น ขอเสนอต่าง ๆ เป็นต้น ผูจดบันทึกการประชุมตองหาเจตนาของกรรมการหรือผูพดวาต้องการ
ู
อะไร โดยแบ่งประเภทของเจตนาการกล่าวในที่ประชุม ดังนี้
(๑) รายงาน (รายงานการปฏิบัติงาน ความคืบหนาของผลงาน / รายงาน
ปัญหาอุปสรรค)
(๒) แจง (การพูดแจ้งเพื่อทราบ ใช้เทคนิค ๕W๑H)
(๓) ชี้แจง (การพดเพอชี้แจงสาเหตุ เรื่องราว หรือชี้แจงระเบียบการ
ู
ื่
ปฏิบัติ)
ิ
ิ
(๔) แสดงความคิดเห็น (การแสดงความคดเห็นเกี่ยวกับประเด็นที่พจารณา
อยู ทําแลวเกิดประโยชน ผลดี ผลเสียหรือไมอยางไร)
(๕) ใหขอเสนอ (การใหขอเสนอควรทําอะไร หรือ อยางไร)
๓.๑.๑.๖ การรับรองรายงานการประชุม การรับรองรายงานมี ๓ วิธี ดังนี้
๑) รับรองในการประชุมครั้งนั้น ใช้สำหรับกรณีเรื่องเร่งด่วน ให้ประธานหรือ
เลขานุการของที่ประชุมอ่านสรุปมติให้ที่ประชุมพิจารณารับรอง
๒) รับรองในการประชุมครั้งต่อไป ประธานหรือเลขานุการ เสนอรายงานการประชุม
ครั้งที่แล้ว
๓) รับรองโดยการแจ้งเวียน ใช้ในกรณีที่ไม่มีการประชุมครั้งต่อไป หรือมีแต่ยัง
กำหนดเวลาประชุมครั้งต่อไปไม่ได้ หรือมีระยะเวลาห่างจากการประชุมครั้งนั้นมากให้เลขานุการส่งรายงาน
การประชุมไปให้บุคคลในคณะกรรมการพิจารณารับรองภายในระยะเวลาที่กำหนด
๓.๑.๒ ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยงานสารบรรณ พ.ศ. ๒๕๒๖ และ(ฉบับที่ ๒)
พ.ศ. ๒๕๔๘
ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยงานสารบรรณ พ.ศ. ๒๕๒๖ และ(ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๘
ส่วนที่ ๖ หนังสือที่เจ้าหน้าที่ทำขึ้นหรือรับไว้เป็นหลักฐานในราชการ ข้อ ๒๕ ระบุว่า
รายงานการประชุม คือ การบันทึกความคิดเห็นของผู้มาประชุม ผู้เข้าร่วมประชุม และมติ
ของที่ประชุมไว้เป็นหลักฐาน ให้จัดทำตามแบบที่ ๑๑ ท้ายระเบียบ โดยกรอกรายละเอียดดังนี้
๑) รายงานการประชุม ให้ลงชื่อคณะที่ประชุม หรือชื่อการประชุมนั้น
๒) ครั้งที่ ให้ลงครั้งที่ประชุม
๓) เมื่อ ให้ลงวัน เดือน ปีที่ประชุม
๔) ณ ให้ลงสถานที่ที่ประชุม