Page 666 - บทความแนวปฏิบัติที่ดี KM มทร.+2 ครั้งที่ 10
P. 666
660
7) การเรียนรู้ (Learning) ท าให้เกิดการเรียนรู้เป็นส่วนหนึ่งของงาน เป็นการน าความรู้ที่ได้
จากการแลกเปลี่ยนใช้ประโยชน์ในการท างานเพื่อแก้ปัญหา ปรับปรุงและพัฒนาเพื่อให้การด าเนินงานให้มี
ประสิทธิภาพและประสิทธิผลที่ดีขึ้น เมื่อมีการปฏิบัติมีปัญหาจุดไหนอย่างไรและต้องมีการปรับปรุงแก้ไข ผู้
ปฏิบัติสามารถแจ้งข้อมูลป้อนกลับ (Feedback) เพื่อให้มีการพิจารณาปรับปรุงงานและโครงการ เกิดการ
เรียนรู้และประสบการณ์ใหม่และหมุนเวียนต่อไปอย่างต่อเนื่อง
จากกระบวนการ 7 ขั้นตอนของการน าเทคโนโลยีสารสนเทศเข้าไปบรูณาการกับการจัดการความรู้
โดยคณะผู้วิจัยได้ใช้เครื่องมือแบบสอบถามในการวัดประสิทธิภาพและความพึงพอใจของการใช้เครื่องมือ
พบว่ากลุ่มประชากรตัวอย่างมีความเข้าใจในเครื่องมือและกระบวนการจัดการความรู้ในองค์กรอยู่ในระดับดี
มาก โดยค่าเฉลี่ยความพึงพอใจอยู่ที่ 4.35 กระบวนการใช้เครื่องมือเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีความสอดคล้อง
กับขั้นตอนการจัดการความรู้ในองค์กร โดยค่าเฉลี่ยความพึงพอใจอยู่ที่ 4.10 อยู่ในระดับความพึงพอใจมาก
และระดับความพึงพอใจการเข้าถึงองค์ความรู้ คุณภาพขององค์ความรู้และเหมาะสมขององค์ความรู้อยู่ใน
ระดับมาก ค่าเฉลี่ย 4.05
อภิปรายผลการด าเนินงาน
จากคณะผู้ท าการวิจัยได้น าเทคโนโลยีระบบสารสนเทศเข้าไปใช้ในกระบวนการจัดการความรู้ของ
โครงการส่งเสริมการจัดการศึกษานอกระบบ การเรียนรู้ตลอดชีวิต ธนาคารอาชีพเพื่อปวงชน ของสถาบัน
ถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่ชุมชน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนาจะต้องศึกษาและการวิเคราะห์ให้ตรงตาม
ความต้องการคณะท างานให้บรรลุวัตถุประสงค์และเป้าหมายของโครงการในการน าเทคโนโลยีสารสนเทศที่
สามารถมาใช้ในการจัดการความรู้นั้น ควรมีเทคโนโลยีที่ช่วยในการสนับสนุนทั้งเทคโนโลยีในการสื่อสาร
(Communication Technology) อาทิเช่น แอพพิเคชั่นไลน์ (LINE) เทคโนโลยีในการท างานร่วมกัน
(Collaboration Technology)ได้แก่ ระบบข้อมูลกลาง Google Drive และเพจ Facebook และเทคโนโลยี
การจัดเก็บ (Storage Technology) เพื่อให้เกิดการบูรณาการร่วมกันได้แก่ ระบบข้อมูลกลาง Google Drive
และเวปไซต์ของโครงการ
ปัญหา อุปสรรคและข้อเสนอแนะ
การน าเทคโนโลยีสารสนเทศเข้าใช้การจัดการความรู้ในหน่วยงาน ควรมีส่งเสริมและสนับสนุนให้
เกิดการเรียนรู้ร่วมกัน และเพื่อการเรียนรู้และการแลกเปลี่ยนความรู้เป็นไปอย่างกว้างขวางทั่วถึง จะส่งผลให้
สามารถพัฒนาโครงการและองค์กรให้มีศักยภาพและขีดความสามารถพร้อมต่อการแข่งขันได้ และควรศึกษา
ข้อมูลของหน่วยงานทั้งความรู้แบบฝังลึก (Tacit Knowledge) และความรู้แบบชัดแจ้ง (Explicit
Knowledge) ก่อนไปสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญเรื่องประเด็นปัญหาที่ไปรับความรู้จากผู้เชี่ยวชาญ
การวิจัยครั้งต่อไป ควรศึกษาองค์ความรู้ในส่วนของฝ่ายบริหารโครงการ และมีองค์ความรู้ที่
สามารถใช้ร่วมกันได้ เมื่อผู้ปฏิบัติงานภายใต้งานการบริหารโครงการ สามารถเรียนรู้ แลกเปลี่ยนประสบการณ์
และสามารถปฏิบัติงานแทนกันได้และควรมีวิธีการติดตามผลการน าความรู้ที่เผยแพร่ว่าสามารถน าไปใช้
แก้ปัญหา ตรวจสอบความทันสมัย