Page 685 - บทความแนวปฏิบัติที่ดี KM มทร.+2 ครั้งที่ 10
P. 685
679
3. เพื่อพัฒนาการเรียนการสอนร าเพลงช้า-เพลงเร็ว
บุคลากรภาควิชานาฏศิลป์ได้น าเทคนิคการสอนในคู่มือการสอนไปใช้ในการเรียนการสอนของตนเอง
โดยเลือกเอาเทคนิคที่เหมาะสมไปใช้แก้ปัญหาของผู้เรียนเป็นรายกรณี ท าให้ผู้เรียนเกิดการพัฒนาและเกิด
ผลสัมฤทธิ์ในการเรียนดีขึ้น
จากการติดตามการน าคู่มือการสอนไปใช้ซึ่งคณะกรรมการการจัดการความรู้ได้จัดท าเป็นแบบติดตาม
ประเมินผลการน าองค์ความรู้ไปใช้พบว่ามีบุคลากรจ านวน 5 คน น าองค์ความรู้ในคู่มือการสอนไปใช้ จ านวน
4 เรื่อง ได้แก่ วิธีการแต่งกายในการฝึกปฏิบัติ นาฏยศัพท์เบื้องต้น เทคนิคการสอนปฏิบัติเพลงช้า-เพลงเร็ว
การแก้ไขข้อบกพร่องในการร า ปรากฏผลดังนี้
1. เรื่องวิธีการแต่งกายในการฝึกปฏิบัติ ผู้เรียนนุ่งโจงกระเบนได้ถูกต้อง เมื่อปฏิบัติท่าร าจึงท าให้
ผู้เรียนสามารถกดไหล่ กดเอว ได้สะดวก จึงส่งผลให้ผู้เรียนสามารถปฏิบัติท่ากระดกเสี้ยวได้ถูกต้องและ
สวยงามมากขึ้น
2. เรื่องนาฏยศัพท์ผู้เรียนสามารถปฏิบัติท่านาฏยศัพท์ได้ถูกต้องมากยิ่งขึ้นและสามารถเชื่อมต่อท่าร า
แต่ละท่าได้ดีขึ้น และท่าร ามีความชัดเจนมากขึ้น
3. เรื่องหลักและเทคนิคการสอนปฏิบัติเพลงช้า เพลงเร็ว ท าให้ผู้เรียนปฏิบัติท่าร าได้ถูกต้องตาม
หลักนาฏศิลป์ไทย แต่ยังไม่สามารถเน้นในเรื่องของลีลาการร าเพราะว่าผู้เรียนยังไม่มีพื้นฐานการร าจึงเน้นเรื่อง
การปฏิบัติท่าร าให้ถูกต้อง
4. ในเรื่องการแก้ไขข้อบกพร่องในการร า ครูได้ใช้วิธีจับท่าร าในแต่ละท่าให้ผู้เรียน เพื่อสร้าง
ความรู้สึกใกล้ชิด สร้างความรู้สึกเอาใจใส่ ท าให้ผู้เรียนเกิดความพยายามในการแก้ไขข้อบกพร่องของตัวเอง
มากยิ่งขึ้น นอกจากนั้นยังใช้วิธีการอธิบายง่ายๆ เช่น เรื่องทิศ ใช้วิธีการบอกให้ผู้เรียนหันหน้าไปทางสถานที่
ต่าง ๆ ที่อยู่ใกล้เคียงกับวิทยาลัย ท าให้ผู้เรียนมีความเข้าใจและหันได้ถูกทิศมากยิ่งขึ้น ท าให้คลายความกังวง
ในการปฏิบัติท่าร า และใช้หลักจิตรวิทยา เสริมสร้างแรงจูงใจ ท าให้ผู้เรียนเกิดความกระตือรือร้นในการ
เรียนเพิ่มมากขึ้น ไม่รู้สึกท้อแท้ มีการตั้งเป้าหมายให้ตนเอง
อภิปรายผลการด าเนินงาน
จากผลการด าเนินงานการจัดการความรู้เรื่อง เทคนิคการสอนร าเพลงช้า-เพลงเร็ว สามารถอภิปราย
ผลการด าเนินงานดังนี้
การด าเนินงานการจัดการความรู้เรื่อง เทคนิคการสอนร าเพลงช้า-เพลงเร็ว เป็นการจัดการความรู้ที่
จัดท าขึ้นโดยยึดหลักการจัดการความรู้ คือ การรวบรวมองค์ความรู้ที่มีอยู่ในส่วนราชการซึ่งกระจายอยู่ในตัว
บุคคลหรือเอกสารมาพัฒนาให้เป็นระบบเพื่อให้ทุกคนในองค์กรสามารถเข้าถึงความรู้และพัฒนาตนเองให้เป็น
ผู้รู้ รวมทั้งปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อันจะส่งผลให้องค์กรมีความสามารถในเชิงแข่งขันสูงสุด ซึ่งการ
จัดการความรู้เรื่อง เทคนิคการสอนร าเพลงช้า-เพลงเร็ว เป็นการรวบรวมองค์ความรู้ที่ฝังอยู่ในตัวบุคลากร
ของวิทยาลัย ซึ่งเกิดจากการบ่มเพาะประสบการณ์ในการสอนและการแก้ปัญหาผู้เรียน ซึ่งความรู้เหล่านี้เป็น
ความรู้ที่เป็นนามธรรม จึงได้น ามาพัฒนาให้เป็นระบบให้เกิดเป็นองค์ความรู้ที่ชัดแจ้ง โดยผ่านกระบวนการ
บ่งชี้ความรู้ซึ่งได้ยึดประเด็นยุทธศาสตร์การพัฒนาการจัดการศึกษาด้านนาฏศิลป์ ดุริยางคศิลป์และคีตศิลป์
ให้มีคุณภาพและมาตรฐานเป็นที่ยอมรับระดับชาติ ซึ่งถ้าการจัดการเรียนการสอนของครูมีคุณภาพ ก็จะ
ส่งผลให้ผู้เรียนนั้นเป็นผู้ที่มีมาตรฐาน มีคุณภาพเช่นกัน
ในกระบวนการสร้างและแสวงหาความรู้ การจัดความรู้ให้เป็นระบบ การประมวลและกลั่นกรอง
ความรู้ จะเป็นกระบวนการที่น าเทคนิคต่าง ๆ ที่ครูผู้สอนใช้ในการสอนร าเพลงช้า-เพลงเร็ว ซึ่งเป็นความรู้ที่