Page 196 - บทความแนวปฏิบัติที่ดี KM มทร.+2 ครั้งที่ 10
P. 196

190


               (การท างานร่วมกัน) และ Creativity  (การคิดสร้างสรรค์) ดังจะพบว่าการกิจกรรมตั้งแต่การสร้างทีมในการ
               แก้ไขโจทย์ปัญหาเป็นการสนับสนุนทักษะในศตวรรษที่ 21 ของนักเรียนด้วยกันทั้งสิ้น

                       6. การสร้างการยอมรับและการมีส่วนร่วมจากชุมชน เนื่องจากการเรียนรู้ในปัจจุบันจะต้องเป็นการ
               เรียนรู้ที่สามารถน าไปปฏิบัติงานจริงกับสาธารณะชนซึ่งได้แก่ชุมชนโดยรอบ ดังนั้นผู้เรียนจึงต้องได้รับการ
               ฝึกฝนให้ท างานที่เป็นที่ยอมรับของชุมชนเพื่อส่งเสริมการท างานที่ถูกต้องตามหลักกฎหมายของสังคม
                       7. การสร้างการสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญในท้องถิ่น

                       8.  การเรียนรู้อย่างไม่เป็นทางการ (informal  learning)  การเรียนรู้ดังกล่าวท าให้เกิดการคิดนอก
               กรอบของผู้เรียน ส่งเสริมและสร้างสรรค์การท างานเชิงการคิดสร้างสรรค์
                        9. การเรียนรู้ตามอัธยาศัย (non-formal learning) เป็นการสร้างการเรียนรู้จากความสนใจท าให้
               เกิดความอยากรู้ ใคร่ที่จะเรียนรู้ เกิดจากความสนใจภายในบุคคลซึ่งจะสะท้อนให้เห็นถึงการเรียนรู้ตลอดชีวิต

               (Long Life Learning) เช่นกัน ในการนี้ เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนการเรียนแบบสะเต็มศึกษาซึ่งฐานการศึกษา
               ที่ส าคัญท าให้เกิดองค์กรแห่งการเรียนรู้ของอาชีวศึกษาจะต้องมีการเริ่มต้นจากการสร้างชุมชนนักปฏิบัติที่เป็น
               หน่วยในการสนับสนุนให้เกิดการด าเนินการตามยุทธศาสตร์ของประเทศ
                       มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนาได้จัดให้มีคณะท างานเพื่อขับเคลื่อนนโยบายด้านการจัดการ

               เรียนการสอนสะเต็มศึกษาส าหรับการศึกษาภาคอาชีวศึกษา ซึ่งประกอบด้วยคณาจารย์จากหลากหลายศาสตร์
               ได้แก่ สาขาวิศวกรรมศาสตร์ สาขาบริหารธุรกิจ และสาขาศิลปกรรม เพื่อให้เกิดทีมการท างานในการ
               ด าเนินการจัดกิจกรรมที่ท าให้เกิดการยกระดับการจัดการเรียนการสอนทางอาชีวศึกษาผ่านกิจกรรมโครงการ

               STEM RMUTL ทั้งนี้วิธีการด าเนินงานของกลุ่มงานที่ขับเคลื่อนดังกล่าวมีดังหัวข้อถัดไป


               วิธีการด าเนินงาน
                       วิธีการด าเนินการของการสร้างการเรียนรู้แบบสะเต็ม ใช้พื้นฐานของทฤษฎีวินัยข้อที่ 5 (The  Fifth

               Discipline) ซึ่งทฤษฎีนี้เป็นการสร้างองค์กรแห่งการเรียนรู้ เน้นการวางแผนการเรียนรู้ในองค์กรโดยการคิดทุก
               ระบบ (Systems  Thinking)  เพื่อให้องค์กรตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงได้ทันต่อสภาพแวดล้อมและการ
               เปลี่ยนแปลง โดยเน้นการสร้างคน ให้เกิดความสมดุล การพัฒนาขีดความสามารถและการคาดการณ์ล่วงหน้า

               เพื่อหน่วงเวลาไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อองค์กร ดังแสดงในภาพที่ 1













                                   ภาพที่ 1 วิธีการด าเนินการของการสร้างการเรียนรู้แบบสะเต็ม
   191   192   193   194   195   196   197   198   199   200   201