Page 306 - บทความแนวปฏิบัติที่ดี KM มทร.+2 ครั้งที่ 10
P. 306

300


               2. การเจริญเติบโต อัตราการรอดตาย และอัตราการเปลี่ยนอาหารเป็นเนื้อของปลากะพงขาว
                           ท าการสุ่มมาชั่งวัดเป็นจ านวน 100 ตัว ซึ่งมีความยาวเฉลี่ยเท่ากับ 10.78 เซนติเมตร และน้ าหนัก

               เฉลี่ยเท่ากับ 13.30  กรัม ปล่อยลงเลี้ยงทั้ง 2  บ่อ บ่อเลี้ยงร่วมกับหอยแมลงภู่ เมื่อเลี้ยงเป็นเวลา 7  เดือนมี
               น้ าหนักเฉลี่ยเท่ากับ 457.500 ความยาวเฉลี่ยเท่ากับ 30.050 เซนติเมตร
                           บ่อเลี้ยงปลากะพงขาว(บ่อควบคุม) เมื่อเลี้ยงเป็นเวลา 7  เดือนมีน้ าหนักเฉลี่ยเท่ากับ  469.500
               ความยาวเฉลี่ยเท่ากับ 30.800 เซนติเมตร เมื่อสิ้นสุดการทดลองทั้งสองบ่อไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติ

                           ปลากะพงขาวที่ทดลองเลี้ยงในบ่อดินขนาด 1.31ไร่ที่เลี้ยงร่วมกับหอยแมลงภู่ อัตรารอดตายเท่ากับ
               71.09  เปอร์เซ็นต์ อัตรารอดตายปลากะพงขาวที่เลี้ยงในบ่อดินขนาด 0.78 ไร่เป็นบ่อควบคุม มีอัตราการรอด
               ตายเท่ากับ 74.03  เปอร์เซ็นต์ เมื่อสิ้นสุดการทดลองทั้งสองบ่อไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติ
                          อัตราการแลกเปลี่ยนอาหารปลากะพงขาวที่เลี้ยงในบ่อขนาด1.31ไร่เท่ากับ   7.05:1 ปลากะพงขาวที่

               เลี้ยงในบ่อขนาด 0.78 ไร่ มีค่าเท่ากับ 6.84:1

               3. การแยกชนิดของแพลงก์ตอน
                           การแยกชนิดของแพลงก็ตอนพืชที่ตรวจพบในบ่อปลาทั้ง 2 บ่อที่ส าคัญคือแพลงก์ตอนพืชทั้งหมด 3

               ดิวิชัน 17  สกุลได้แก่ ดิวิชัน Cyanophyta   7  สกุล ได้แก่ Chroococus  sp,  Merismopedia  sp.,
               Microcystis  sp.,  Spilulina  sp.,  Oscillatoria  sp.,  Lyngbya  sp.และ Anabaena  sp.  ดิวิชัน
               Chlorophyta ที่พบมี 6 สกุลคือ Chlorella sp., Coelastrum sp., Scenedesmus sp., Radiococcus

               sp.,  Staurastrum  sp.และ  Euglena  sp.  ดิวิชั่น Chromophyta  ที่พบ 4  สกุลคือ Coscinodiscus  sp.,
               Bacteriastrum sp., Nitzschia spและDinoflagellate sp.

               4. น าผลจากการวิจัยไปถ่ายทอดสู่กลุ่มวิสาหกิจชุมชน

                         ได้น าไปใช้ในการบูรณาการกับบริการวิชาการกับสังคม ของคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการ
               ประมง ในโครงการบริการวิชาการเพื่อสร้างความเข้มแข็งและยั่งยืนให้กับชุมชนบ่อหิน ปีงบประมาณ 2559 ซึ่ง

               จากงานวิจัยเรื่องนี้ได้น าไปเผยแพร่ให้กลุ่มวิสาหกิจผู้เลี้ยงปลาในกระชังบ้านปากคลองโดยวิธีการอบรมเชิง
               ปฏิบัติการดดยให้ผู้เข้าอบรมได้ฝึกปฎิบัติจริง หลังจากนั้นได้ติดตามการน าไปใช้ประโยชน์ โดยทางกลุ่มได้น า
               ความรู้ดังกล่าวไปท าเป็นอาชีพเสริมเลี้ยงหอยแมลงภู่แบบแขวนบริเวณพื้นที่ระหว่างทางเดินใต้กระชังให้เป็น

               ประโยชน์ในระดับความลึก 40 เซนติเมตร ซึ่งหอยมีการเจริญเติบโตดีมากเนื่องจากบริเวณดังกล่าวมีอาหาร
               ธรรมชาติของหอยแมลงภู่ในปริมาณมาก

               5. การบูรณาการกับการเรียนการสอน

                         ได้น าไปใช้ในการบูรณาการการเรียนการสอนกับรายวิชาในหลักสูตรเพาะเลี้ยงสัตว์น้ า วิชา ปัญหา
               พิเศษทางการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ า ได้ท าปัญหาพิเศษ 2 เรื่อง และวิชาปฏิบัติการการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ าชายฝั่ง ได้

               ศึกษาในบทปฏิบัติการการเลี้ยงสัตว์น้ าแบบผสมผสาน ซึ่งท าให้นักศึกษาได้ความรู้และฝึกฝนทักษะด้าน
               คุณธรรมและจริยธรรมอีกด้วย
                        นอกจากนี้ได้น านักศึกษาไปฝึกปฏิบัติจริงในฟาร์มเลี้ยงปลาในกระชังที่ได้น าองค์ความรู้จากงานวิจัย
               ไปเผยแพร่น ามาบูรณาการกับการเรียนการสอนในรายวิชาปฏิบัติการการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ าชายฝั่งปีการศึกษา

               2/2558 อีกด้วย
   301   302   303   304   305   306   307   308   309   310   311