Page 501 - บทความแนวปฏิบัติที่ดี KM มทร.+2 ครั้งที่ 10
P. 501

495


               กระบวนการที่ 2 การเลือกเครื่องดนตรี
                       เครื่องดนตรีที่ใช้ในการบรรเลงเดี่ยวระนาดเอกประกอบด้วย ผืนระนาดเอก 2 ผืน รางระนาดเอก 2

               ราง ในการเลือกเครื่องดนตรีส าหรับในการน ามาบรรเลงเดี่ยว 2 รางควรมีคุณสมบัติ ดังนี้
               ผืนระนาดเอก  การเลือกผืนระนาดเอกส าหรับใช้ในการบรรเลงเดี่ยวระนาดเอก 2 ราง ถือว่าเป็นสิ่งส าคัญมาก
               ผืนระนาดเอกต้องมีคุณภาพเท่ากันทั้ง 2 ผืน ในการเลือกผืนระนาดต้องเลือกผืนที่มีเสียงดังกังวาน มีระดับ
               เสียงเดียวกัน มีขนาดลูกและขนาดโดยรวมตลอดทั้งผืนเท่ากันทั้ง 2 ผืน

               รางระนาดเอก  การเลือกรางระนาดเอกส าหรับใช้บรรเลงเดี่ยวระนาดเอก 2 ราง  ควรเลือกรางที่มีขนาด
               เท่ากันทั้ง 2 ราง รวมถึงควรมีลักษณะลวดลายสีสันเหมือนกันเพื่อความสวยงามและมีความสูงเท่ากัน
               กระบวนการที่ 3 กลวิธีการบรรเลงระนาดเอก 2 ราง
                       แนวทางในการบรรเลงเดี่ยวระนาดเอก 2 ราง ต้องมีพื้นฐานจากการบรรเลงเดี่ยวระนาดเอกรางเดียว

               เป็นเบื้องต้น ประกอบด้วย กลวิธีและทักษะต่างๆ ตามรูปแบบการบรรเลงเดี่ยวระนาดเอก แต่ในการบรรเลง
               เดี่ยวระนาดเอก 2 รางนั้น มีรูปแบบและความแตกต่างที่เพิ่มขึ้นมาจากการบรรเลงระนาดเอกรางเดียวคือการ
               บรรเลงระนาดเอก 2 รางจะใช้ระนาดเอกในการบรรเลง 2 ราง  ซึ่งในลักษณะการวางระนาดทั้ง 2 รางจะมี
               ระยะการวางประมาณ 45 องศาหรืออาจมากน้อยขึ้นอยู่กับสรีระของผู้บรรเลง แต่ในการบรรเลงบางช่วง

               ท านองผู้บรรเลงจะต้องบรรเลงพร้อมกันทั้ง 2 ราง โดยมือทั้ง 2 จะตีระนาดข้างละผืน ซึ่งลักษณะการบรรเลง
               รูปแบบนี้ถือว่าเป็นการบรรเลงระนาดที่ต้องใช้ลักษณะการตีอีกแบบหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่ระบบการตีระนาดแบบราง
               เดียว เพราะปกติทั่วไปการบรรเลงระนาดเอกรางเดียวจะบรรเลงเป็นคู่แปด ซึ่งระยะการบรรเลงจะเป็น

               ลักษณะที่แคบและเคยชิน แต่การตีระนาด 2 ราง ผู้บรรเลงจะต้องกะระยะที่กว้างขึ้นจึงท าให้มีรูปแบบการ
               บรรเลงที่แปลก ซึ่งผิดจากลักษณะการบรรเลงคู่แปดแบบรางเดียว
                       การฝึกบรรเลงระนาดเอก 2 รางให้มีความแม่นลูกแม่นเสียง ครูนัฐพงศ์  โสวัตร ใช้วิธีการฝึกโดยท า
               สัญลักษณ์ที่ผืนระนาดโดยใช้ชอล์กหรือบางครั้งก็ใช้วิธีการจ าลวดลายของลูกระนาด รอยไม้หรือรอยต าหนิ ซึ่ง
               ลักษณะการจ านี้ขึ้นอยู่กับวิธีการของแต่ละบุคคล การฝึกของครูนัฐพงศ์  โสวัตร มีวิธีการฝึกโดยการตีให้ตรง

               ตามสัญลักษณ์ที่ได้ท าเครื่องหมายไว้ ฝึกตีซ้ าๆ บ่อยๆ จนกว่าจะเกิดความช านาญ ไม่พลาดลูกพลาดเสียง
                       ลักษณะการนั่งเป็นสิ่งส าคัญส าหรับรูปแบบการบรรเลงเดี่ยวระนาดเอก 2 ราง เพราะผู้บรรเลงต้อง
               ขยับตัวเพื่อหาองศาการนั่งให้พอดีกับระยะห่างของมือ เพื่อให้ง่ายต่อการตีให้ถูกเสียง โดยการนั่งนั้นจะนั่งใน

               ลักษณะเฉียงไม่หันหน้าเข้าหาระนาดเอกรางใดรางหนึ่ง โดยเข่าข้างซ้ายจะชี้ตรงไปยังระนาดเอกฝั่งซ้ายมือและ
               เข่าข้างขวาจะชี้มาตรงระนาดฝั่งขวามือ ครูนัฐพงศ์ ใช้วิธีกะระยะห่างของการนั่งและการจับไม้ระนาดให้พอดี
               กับลักษณะทางกายภาพของตนเอง โดยการนั่งเฉียงหันหน้าไปตรงกลางระหว่างโขนของระนาดเอกทั้ง 2 รางที่
               ชนกัน โดยกะระยะให้อยู่ตรงกลางพอดี แล้วฝึกตีจนกว่าจะได้เสียงตามที่ต้องการและฝึกซ้ าๆ จนเกิดความเคย

               ชินและช านาญ ครูนัฐพงศ์  โสวัตร ได้กล่าวว่า “สิ่งส ำคัญของกำรฝึกรูปแบบนี้ก็คือกำรตีได้ถูกลูก แม่นเสียง
               และตีได้ตรงตำมเสียงที่ต้องกำรไม่ผิดพลำด ควรฝึกซ้ ำๆ จนกว่ำจะเกิดควำมคมชัด ควำมช ำนำญในทักษะต่ำงๆ
               จนกระทั่งสำมำรถบรรเลงเดี่ยวระนำดเอก 2 รำงได้ เสมือนกับกำรบรรเลงเดี่ยวระนำดเอกรำงเดียว”
   496   497   498   499   500   501   502   503   504   505   506