Page 610 - บทความแนวปฏิบัติที่ดี KM มทร.+2 ครั้งที่ 10
P. 610

604



























                  ภาพที่ 1 ยุทธศาสตร์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนากับการศึกษาตลอดชีวิต (ทักษะอาชีพ)


                       ตามยุทธศาสตร์มหาวิทยาลัยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนากับการศึกษาตลอดชีวิต (ทักษะ
               อาชีพ) ได้ร่วมด าเนินงานพื้นที่ชุมชนโดยรอบศูนย์พัฒนาโครงการหลวง และโครงการอันเนื่องมาจาก
               พระราชด าริตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2540 อย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ระยะแรก พ.ศ. 2540-2550 เป็นการท างาน
               ในพื้นที่เน้นการท าโครงการภายใต้กิจการเพื่อสังคม (Social  Enterprise) โดยเฉพาะอย่างยิ่งการถ่ายทอด

               และแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ต่างๆ กับชุมชน โดยมหาวิทยาลัยฯ ได้ใช้พื้นที่เป็นการปฏิบัติงานในชุมชนชนบท
               (Social Lab) บนพื้นที่สูงบนพิ้นที่รับผิดชอบของมูลนิธิโครงการหลวง และพื้นที่ภายใต้โครงการอันเนื่องมาจาก
               พระราชด าริ ในเขตจังหวัดภาคเหนือตอนบน ท าให้เกิดพัฒนาการของกลุ่มชุมชน ผ่านกลไกและการบูรณา

               ร่วมกับอาจารย์ นักวิชาการ บุคลากรและศิษย์เก่า เกิดเป็นงานวิจัย การเรียนการสอนนักศึกษาของ
               มหาวิทยาลัยฯ และเครือข่ายพันธมิตรทั้งในและนอกพื้นที่ เกิดการพัฒนาความร่วมมือกับภาคเอกชนที่สนใจ มี
               การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และท ากิจกรรมเพื่อสังคม (Cope rate Social Responsibility) มากขึ้น การส่งเสริม
               งานกิจการเพื่อสังคมและชุมชน โดยมหาวิทยาลัยมุ่งเน้นให้เกิดการเรียนรู้ท าให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมสามารถ
               พัฒนาสติปัญญา (Intellect) และคุณลักษณะของการเป็นพลเมืองที่ดี และน าไปสู่การเป็นผู้น าการ

               เปลี่ยนแปลงในด้านความรู้ (Knowledge) สมรรถนะทางด้านวิชาชีพ (Occupation Competencies) ทักษะ
               ชีวิตและสังคม (Life  Skills  and  Social  Skills) สามารถเชื่อมโยง และประยุกต์ความรู้เข้ากับโจทย์และ
               วิชาการแขนงอื่นๆ กิจกรรมดังกล่าวนี้มีผู้เข้าร่วมโครงการมากกว่า 3,000 คน ท าให้เกิดความพร้อมที่จะการ

               รับมือกับความเปลี่ยนแปลงของสังคมภายนอกได้
                         ระยะที่สอง พ.ศ. 2550-2559 การท างานที่มุ่งเน้นกลไกลกระบวนการและวิธีการในการท างาน
               ที่มาจากการมีข้อตกลงสัมพันธ์เพื่อสังคม (Social Engagement) ร่วมกันกับชุมชนเป็นจุดเริ่มต้นในการท างาน
               กล่าวคือ การท าโครงการต้องเป็นโครงการหรือกิจกรรมที่ชุมชนร่วมคิด โดยศูนย์ความร่วมมือฯ กับชุมชน

               ร่วมกันด าเนิน (Partnerships) มีการใช้ความรู้หรือเกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน เกิดประโยชน์ร่วมกัน
               (Mutual  benefits) ท าให้เกิดผลกระทบที่ดีต่อสังคม (Measurable  Social  Impact) ที่เป็นประโยชน์ต่อ
   605   606   607   608   609   610   611   612   613   614   615