Page 271 - บทความแนวปฏิบัติที่ดี KM มทร.+2 ครั้งที่ 10
P. 271
265
บทน า
สังคมโลกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว รวมถึงความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและวิทยาการ
ความรู้ต่าง ๆ ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงตามสภาพเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้การวิจัยถือเป็นวิธีการที่จะ
ท าให้ได้ความรู้ใหม่ เพื่อที่จะท าให้องค์การต่าง ๆ เกิดการพัฒนาอย่างถูกต้องและมีทิศทางที่ชัดเจน ดังนั้น
องค์การธุรกิจหรือองค์การทางด้านการศึกษาจึงมีการท าวิจัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อน าผลสะท้อนที่ได้จากการ
ศึกษาวิจัยไปปรับใช้รวมทั้งการน าไปเพื่อประยุกต์ให้เข้ากับสภาพขององค์การและบริบทที่มีความแตกต่างกัน
ไปในแต่ละพื้นที่ นอกจากนี้ในสภาพสังคมปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงจากสังคมในอดีตอย่างเห็นได้ชัด ความ
สลับซับซ้อนของปัญหาในสังคมท าให้การวิจัยที่ใช้รูปแบบเดิมๆ อาจไม่สามารถตอบค าถามการวิจัยได้ตรง
ประเด็นและได้ผลอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ ส่งผลให้มีนักวิชาการและนักการศึกษาได้มีการพัฒนารูปแบบและ
เทคนิคการวิจัยใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลา การใช้ระเบียบวิจัยเพียงแบบเดียว คือ การวิจัยเชิงปริมาณ หรือการวิจัย
เชิงคุณภาพอาจไม่สามารถตอบโจทย์หรือปัญหาการวิจัยได้อย่างครอบคลุม จึงต้องน าการวิจัยแบบผสมผสาน
(Mixed Methods Research) (จุไรรัตน์ ทองค าชื่นวิวัฒน์, 2556) เข้ามาใช้เพื่อแก้ปัญหาและพัฒนาองค์การ
ให้ดียิ่งขึ้นต่อไป
วิธีการวิจัยแบบผสมผสาน เกิดขึ้นจากการน าเอาแนวคิดวิธีการวิจัยเชิงปริมาณและวิธีการวิจัยเชิง
คุณภาพมาร่วมกันศึกษาหาค าตอบเกี่ยวกับปรากฏการณ์ หรือตัวแปรต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ที่
ท าการศึกษานั้น ๆ โดยหวังจะได้รับค าตอบที่เป็นความรู้ของปรากฏการณ์หรือตัวแปรดังกล่าวทั้งภาพกว้าง
และภาพลึกหรือได้รับความรู้หลากหลายแง่มุมขึ้น ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1980 เป็นต้นมาในประเทศสหรัฐอเมริกา วิธี
วิจัยแบบผสมผสาน ได้ถูกน ามาใช้เป็นเครื่องมือส าหรับการค้นหาความรู้ความจริง ในวงวิชาการในสาขาต่าง ๆ
อย่างแพร่หลาย จนกระทั่งอาจกล่าวได้ว่า ในทุกวันนี้หากอ่านรายงานวิจัยที่ศึกษาเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมทาง
สังคมของมนุษย์ จะพบว่า ได้มีการใช้วิธีการวิจัยเชิงผสมผสานเกือบจะแทบทั้งสิ้น (รัตนะ บัวสนธ์, 2554) การ
วิจัยแบบผสมผสานเป็นการวิจัยรูปแบบที่สามที่ได้รับความสนใจจากกลุ่มนักวิจัยและนักวิชาการว่าเป็น
ประโยชน์ต่อวงการวิจัย เนื่องจากรวมข้อดีของการวิจัยทั้งสองรูปแบบ ขณะที่แก้ไขข้อด้อยของการวิจัยแบบใด
แบบหนึ่งไป (อโณทัย งามวิชัยกิจ, 2558)
การจัดการความรู้ (Knowledge Management : KM) ถือได้ว่าเป็นเครื่องมือหรือวิธีการในการ
พัฒนาประสิทธิภาพในการท างานของหน่วยงานในด้านต่าง ๆ ตลอดจนเป็นแนวทางในการพัฒนาบุคลากรและ
องค์กรให้มีศักยภาพเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งในปัจจุบันองค์การทั้งภาครัฐและเอกชนได้ให้ความส าคัญในการจัดการ
ความรู้ด้วยกันทั้งสิ้น โดยในการจัดการความรู้จะเป็นแนวทางที่สนับสนุนให้องค์การต่าง ๆ เป็นองค์การแห่ง
การเรียนรู้ ส าหรับการจัดการความรู้ถือเป็นเครื่องมือส าคัญในการวบรวมความรู้ทั้งที่เป็นความรู้ที่ฝังในตัว
บุคคล (Tacit Knowledge) และความรู้ที่ชัดแจ้ง (Explicit Knowledge) มาพัฒนาให้เป็นระบบเพื่อให้
บุคลากรที่อยู่ในองค์การต่าง ๆ สามารถเข้าถึงความรู้และมีการแบ่งปันแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เพื่อพัฒนาตนเองให้
เป็นผู้รู้ รวมทั้งน าความรู้ที่ได้รับไปใช้ในการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งเสริมสร้างองค์การให้มี
ความสามารถในการแข่งขันในระดับที่สูงขึ้นต่อไป
สถาบันเทคโนโลยีการบิน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก เป็นหน่วยงานที่จัดการศึกษา
ระดับปริญญาตรีด้านการจัดการการบิน ได้ตระหนักถึงความส าคัญของการพัฒนาด้านการวิจัยเพื่อพัฒนา และ
เป็นการสร้างองค์ความรู้และนวัตกรรมใหม่ รวมทั้งเผยแพร่ผลงานการศึกษาวิจัยซึ่งถือเป็นผลงานด้านวิชาการ
ให้ปรากฏสู่สังคมในการด าเนินการเพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว วิธีการหนึ่งที่สถาบันเทคโนโลยีการบินใช้ คือ
การจัดการความรู้ (Knowledge Management) โดยสถาบันเทคโนโลยีการบินได้มีคณาจารย์ที่มี
ประสบการณ์ด้านการศึกษาวิจัย จะท าให้เกิดการสร้างความรู้ อันน าไปสู่การมีองค์ความรู้ อันน าไปสู่การ