Page 453 - บทความแนวปฏิบัติที่ดี KM มทร.+2 ครั้งที่ 10
P. 453
447
วิจัยในชั้นเรียนได้ชัดเจนมากขึ้น โดยมีข้อแนะน าว่าควรมีการเพิ่มตัวอย่างในการเลือกหัวข้อการวิจัย รวมถึง
แนวทางการตั้งชื่อการวิจัย เพื่อสร้างความชัดเจนในการด าเนินการในส่วนอื่นๆ ต่อไป เมื่อได้รับข้อเสนอแนะ
และค าแนะน าเกี่ยวกับองค์ความรู้ที่ด าเนินการจัดเก็บแล้วนั้น คณะศิลปศึกษาได้ด าเนินการน าผลการน าองค์
ความรู้ไปใช้ มาแก้ไข ปรับปรุง องค์ความรู้เดิม ตามข้อเสนอแนะที่ได้ โดยเป็นการน าผลที่ได้จากการ
แลกเปลี่ยนเรียนรู้เกี่ยวกับผลของการน าองค์ความรู้ที่จัดเก็บไปใช้ประโยชน์ มาวางแผนในการส่งเสริม แก้ไข
เปลี่ยนแปลง องค์ความรู้ที่จัดเก็บเดิม ให้มีความสมบูรณ์ ชัดเจน และเกิดเป็นองค์ความรู้ใหม่ ซึ่งปัจจุบันอยู่
ระหว่างการด าเนินการ
ผลและอภิปรายผลการด าเนินงาน
จากการด าเนินการจัดเก็บองค์ความรู้ด้านการวิจัย เรื่อง กระบวนการการท าวิจัยในชั้นเรียนในการ
เรียนรู้ทางวิชาการให้มีประสิทธิภาพ โดยมีกลุ่มเป้าหมายได้แก่ คณาจารย์ของคณะศิลปศึกษาที่มีประสบการณ์
ในการท าวิจัยทางการศึกษา การท าวิจัยในชั้นเรียน หรือจบการศึกษาในระดับปริญญาโทในหลักสูตรที่มีการท า
วิทยานิพนธ์สังกัดภาควิชาการศึกษา และภาควิชาศึกษาทั่วไป มีจ านวนทั้งสิ้น 7 ท่าน ทั้งนี้ได้มีการด าเนินการ
จัดเก็บองค์ความรู้ทั้งสิ้น 3 ครั้ง โดยอาจารย์แต่ละท่านพูดครั้งละ 3 นาที และจากการด าเนินการได้ข้อสรุป
เกี่ยวกับกระบวนการในการด าเนินการวิจัยในชั้นเรียนให้มีประสิทธิภาพดังนี้
ความหมายของการวิจัยในชั้นเรียน
การด าเนินการวิจัยในชั้นเรียนเป็นกระบวนการด าเนินการวิจัยที่มีจุดมุ่งหมายที่ส าคัญในการแก้ไข
พัฒนา ปรับปรุง หรือส่งเสริมคุณภาพด้านการเรียนรู้และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียน ตลอดจนด้านการ
จัดการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น โดยผู้ด าเนินการวิจัยคือ ผู้สอนในแต่ละรายวิชาเป็น
ผู้ด าเนินการวิจัยในรายวิชาของตนเอง ภายในชั้นเรียนของตนเอง สามารถก าหนดกระบวนการที่ใช้ในการ
พัฒนา แก้ไข ปรับปรุง หรือส่งเสริมภายนอกชั้นเรียนได้ แต่การติดตามผลควรติดตามผลภายในสภาพจริงของ
ชั้นเรียนในรายวิชาที่ก าหนดในการด าเนินการวิจัยในชั้นเรียน
กระบวนการในการด าเนินการวิจัยในชั้นเรียน
1. กระบวนการในการเลือกประเด็นปัญหาในการท าวิจัย
1.1 การเลือกประเด็นในการด าเนินการวิจัยในชั้นเรียนนั้น ผู้วิจัย (ผู้สอน) สามารถเลือกประเด็นทั้ง
ทางบวกและทางลบในการด าเนินการวิจัยได้ ไม่จ าเป็นจะต้องเป็นการแก้ไขปัญหาของผู้เรียนเท่านั้น แต่
สามารถเลือกประเด็นในการส่งเสริมคุณภาพที่ดีอยู่เดิมให้ดีหรือมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นได้ ทั้งนี้ยังรวมไปถึงการ
ด าเนินการวิจัยที่ตอบค าถามที่ครูต้องการรู้หรือต้องการศึกษาในรูปแบบของการด าเนินการวิจัยเชิงทดลองด้วย
1.2 กระบวนการในการด าเนินการวิจัยในชั้นเรียนนั้น เริ่มจากการที่ ผู้วิจัย (ผู้สอน) สังเกตสภาพ
ห้องเรียนของตนเองว่ามีสภาพปัญหา หรือมีประเด็นใดที่สามารถด าเนินการวิจัยและสามารถช่วยในการพัฒนา
ผู้เรียน รวมถึงการเรียนการสอนให้มีคุณภาพหรือประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น
